วันเสาร์ที่ 18 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity )




ความคิดสร้างสรรค์ (Creativity )


ก่อนหน้านี้ บริษัทต่างๆประสบชัยชนะในสมรภูมิการตลาดด้วยประสิทธิภาพ หรือคุณภาพที่สูงกว่า แต่ทุกวันนี้กลับเป็นเรื่องขอบการใช้ “ความคิดสร้างสรรค์ที่เหนือกว่า” เดี๋ยวนี้การจะเอาชนะคู่แข่งได้ต้องพึ่งพาสิ่งที่เป็นเอกลักษณ์ ไม่ใช่แค่เพียงความเหนือกว่าในแบบเดิมๆ บริษัทที่ประสบความสำเร็จ ล้วนมีความแตกต่างที่เป็นเอกลักษณ์ทั้งสิ้น

การจะมีความโดดเด่นที่มีเอกลักษณ์ขึ้นมาต้องอาศัยการพัฒนาวัฒนธรรมองค์กรที่ยกย่องการใช้ความคิดสร้างสรรค์ มีวิธีการอยู่ 3 ขั้นตอนด้วยกัน เพื่อเพิ่มความคิดสร้างสรรค์ให้กับองค์กร
1. ว่าจ้างบุคคลที่มีความคิดสร้างสรรค์โดยธรรมชาติ และให้อำนาจควบคุมกับคนๆนั้นไป
2. กระตุ้นให้เกิดความคิดสร้างสรรค์ในองค์กรด้วยการใช้เทคนิคต่างๆที่ได้รับการทดสอบอย่างดี
3. ทำสัญญาจ้างองค์กรภายนอกเพื่อขอความช่วยเหลือด้านความคิดสร้างสรรค์ ติดต่อบริษัทดังๆเพื่อขอคำแนะนำในการหาแนวคิดที่แหวกแนว

บริษัทที่มองการณ์ไกลมักจะจัดตั้งศูนย์รวมความคิดขึ้นมา โดยกระตุ้นให้พนักงาน ผู้ผลิต ผู้จัดจำหน่าย และตัวแทนของบริษัทร่วมกันให้คำแนะนำการลดค่าใช้จ่าย หรือขช่วยสร้างสินค้า คิดค้นคุณสมบัติ หรือบริการใหม่ๆขึ้นมา บริษัทเหล่านี้จะตั้งคณะกรรมการระดับสูงเพื่อรวบรวม ประเมิน และคัดเลือกแนวคิด รวมทั้งมอบรางวัลให้ผู้ที่เสนอแนวคิดที่ดีที่สุด

กล่าวกันว่าความคิดสร้างสรรค์อาจพุ่งถึงขีดสุดเมื่ออายุ 5 ขวบ หลังจากนั้นเด็กก็เริ่มจะสูญเสียสิ่งนี้ไปเมื่อเข้าโรงเรียน การศึกษาที่เน้นการเรียนรู้และการทำความเข้าใจตามสัญชาตญาณซึ่งอยู่ทางด้านสมองซีกซ้าย มีแนวโน้มทำให้สมองซีกขวาที่สร้างสรรค์ขึ้นมา ไม่ได้รับการพัฒนาที่เพียงพอ

วันพฤหัสบดีที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2553

การสร้างแบรนด์องค์กร ( Corporate Branding )




การสร้างแบรนด์องค์กร (Corporate Branding)


การสร้างแบรนด์องค์กรที่เข้มแข็งย่อมให้ผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมตามมา สิ่งที่เป็นลำดับแรกในการสร้างแบรนด์ก็คือ ต้องทำให้บริษัทมีนัยอะไรสักอย่าง ไม่ว่าจะเป็นคุณภาพ นวัตกรรม มิตรภาพ หรือ สิ่งอื่นๆ

แบรนด์องค์กรที่เข้มแข็งต้องอาศัยการสร้างภาพลักษณ์ในเรื่อง แนวคิดหลักที่ดี นอกจากนี้ยังรวมไปถึงคำพาดหัว กราฟฟิก โลโก้ สีที่บ่งบอกความเป็นตัวเอง และเม็ดเงินที่ใช้ในการโฆษณา อย่างไรก็ตามบริษัทไม่ควรพึ่งพาการโฆษณามากเกิน ภาพลักษณ์ทางธุรกิจสามารถสร้างขึ้นมาจากประสิทธิภาพ การดำ เนินงานของบริษัทมากกว่าสิ่งอื่นใด ผลการดำเนินงานที่ดี และการประชาสัมพันธ์ที่ดี ให้ผลลัพธ์มากกว่า การใช้จ่ายเงินเพื่อโฆษณาองค์กร

วันพุธที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2553

ที่ปรึกษา ( Consultants)




ที่ปรึกษา ( Consultants)


ที่ปรึกษามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือบริษัทประเมินถึงโอกาสต่างๆ ประเมินถึงกลยุทธ์ รวมไปถึงยุทธวิธีทางการตลาด ที่ปรึกษาจะทำหน้าที่ในการนำเสนอมุมมองจากภายนอกที่มองเข้าไปภายในองค์กร เพื่อแก้ไขมุมมองขององค์กรที่มองออกไปภายนอกให้ถูกต้อง

กระนั้นก็ตาม ผู้บริหารบางคนอาจกล่าวว่า “ถ้าเราประสบความสำเร็จ เราก็ไม่จำเป็นต้องจ้างที่ปรึกษา หรือในกรณีที่เราไม่ประสบความสำเร็จ เราก็ไม่มีเงินจ้างอยู่ดี”

เราต้องการที่ปรึกษาจำนวนน้อยกว่าเดิมแต่ต้องการผลลัพธ์มากขึ้นกว่าเดิม ที่ปรึกษาจำนวนมากให้คำแนะนำเรื่องต่างๆ แต่ไม่สามารถช่วยแก้ไขปัญหายุ่งยากที่เกิดขึ้นได้ ซึ่งทางที่ดีเมื่อเราพูดกันถึงการดำเนินงานตามคำแนะนำดังกล่าว เราควรใช้วิธีจ่ายค่าตอบแทนให้กับที่ปรึกษาตามผลงานที่ได้รับ

นี่เป็นแบบทดสอบในการมองหาที่ปรึกษาที่ดี เริ่มจากการยิงคำถามใส่ที่ปรึกษาแต่ละรายว่า “กี่โมงแล้ว”
• รายแรก บอกว่า “9โมงเช้า” จ้างรายนี้ได้เลย ถ้าต้องการผลการศึกษาที่เที่ยงตรง ข้อมูลครบถ้วน
• รายที่สอง ตอบว่า “คุณอยากให้เป็นเวลากี่โมงหล่ะ” จ้างคนนี้ได้เลย ถ้าต้องการเพียงแค่แรงสนับสนุน แต่ไม่ต้องการคำแนะนำอื่นๆ
• รายที่สาม ตอบว่า “ทำไมถึงอยากรู้หล่ะ” เลือกรายนี้ ถ้าต้องการความคิดริเริ่มใหม่ๆ เช่น การนิยามปัญหาอย่างพินิจพิเคราะห์

มีความรู้สึกกังวลสงสัยต่อที่ปรึกษาอยู่มากมาย ความกังขาเช่นนี้มีความหมายง่ายๆ ว่า มีที่ปรึกษาทั้งที่ดีและไม่ดี งานของเราก็คือ ต้องแยกให้ออกว่าคนไหนดี หรือไม่ดี ที่เราจะเลือกมาเป็นที่ปรึกษา