บริษัท (Companies)
มีการตั้งข้อสังเกตว่ามีบริษัทอยู่ 4 ประเภทด้วยกัน คือ
1. บริษัทที่สร้างสิ่งต่างๆขึ้นมา
2. บริษัทที่เฝ้าดูสิ่งต่างๆเกิตขึ้น และตอบสนองสิ่งนั้น
3. บริษัทที่เฝ้าดูสิ่งต่างๆเกิดขึ้น แต่ไม่ยอมตอบสนองต่อสิ่งนั้น
4. บริษัทที่ไม่สังเกตว่ามีอะไรเกิดขึ้น
ไม่น่าแปลกใจแม้แต่น้อยที่บริษัทขนาดกลางจะหายไปจากตลาดภายในระยะเวลา 20 ปีข้างหน้านี้ ในจำนวนบริษัท 100 แห่งที่นิตยสารฟอร์บส์ระบุว่าเป็นบริษัทที่ดีที่สุดในปี 1917 มีอยู่เพียง 18 แห่งเท่านั้นที่อยู่รอดมาจนถึงปี 1987 และมีเพียงแค่ 2 บริษัท คือ เจเนอรัล อิเล็กทริก และอีสต์แมนโกดัก เท่านั้นที่ก้าวไปอย่างรวดเร็ว
แต่ใช่ว่าทุกบริษัทที่มีอยู่ในปัจจุบันจะไปตลอดรอดฝั่งจริง หลายบริษัทสร้างภาพหลอกเรา ทั้งๆที่บริษัทเหล่านี้ต้องต่อลมหายใจเพื่อให้อยู่รอดไปวันๆเท่านั้น เจเนอรัล มอเตอร์ และ เซียร์ สูญเสียส่วนแบ่งตลาดมาทุกปีแต่ก็ยังดำเนินธุรกิจอยู่ได้ คุณสารมารถเดินเข้าไปในบริษัทต่างๆ และสามารถบอกได้ภายใน 15 นาทีว่า บริษัทเหล่านั้นยังปกติดี หรือว่าล้มลงไปแล้ว โดยแค่มองจากหน้าพนักงานเท่านั้น
ชักไม่รู้แล้วว่าการที่จะบอกว่าบริษัทนั้นเป็นบริษัทใหญ่ เราใช้อะไรมาเป็นตัววัด เพราะขนาดขององค์กรมีความเกียวพันกับหลายสิ่งหลายอย่าง
บริษัทจะยืนอยู่ได้ตราบเท่าที่ยังสามารถสร้างคุณค่าให้กับลูกค้ามากกว่าผู้อื่น บริษัทต้องให้ความสำคัญกับการเข้าถึงตลาดและลูกค้า และถ้าจะดีที่สุดก็ต้องก้าวไปสู่การเป็นผู้นำตลาด สร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ผู้บริโภคอาจไม่ได้ถามหาแต่พวกเขาต้องมาขอบคุณที่บริษัทสร้างผลิตภัณฑ์เหล่านั้นขึ้นมาในภายหลัง เช่น เดียวกับการขอบคุณ sony ที่สร้างสรรค์ walkman
บริษัทที่ให้ความสำคัญกับลูกค้าเป็นที่ตั้งจะได้รับประโยชน์อย่างสม่ำเสมอ เพราะลูกค้าจะนึกถึงบริษัท และมองบริษัทเป็นตัวเลือกแรกๆตลอดเวลา ผลที่ตามมาก็คือ โอกาสในการเพิ่มส่วนแบ่งตลาดที่เพิ่มขึ้น และผลกำไรที่สูงขึ้นนั่นเอง
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น